เปรียบเทียบการ์ดจอ PC ระหว่าง NVIDIA และ AMD ส่งท้ายปี 2023

เปรียบเทียบการ์ดจอ ในวงการการ์ดจอ PC ถือว่าดุเดือดมากเลยทีเดียวมีสินค้าใหม่ออกมาเพียบ โดย Tom’s Hardware ได้ทำการจัดอันดับความแรงการ์ดจอของ NVIDIA และ AMD ด้วยการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมในรูปแบบต่าง ๆ จากการทำงานและการเล่นเกม โดยมีทั้งการปรับตั้งค่าแสดงผลทั้งแบบ Medium และ Ultra ความละเอียด 1080P, 1440P และระดับ 4K
สารบัญ
เปรียบเทียบการ์ดจอ PC ระหว่าง NVIDIA และ AMD
การ์ดจอ หรือ Graphics Processing Unit (GPU) เป็นส่วนสำคัญในการใช้งานคอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ค หรือ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อแสดงผลภาพให้ลื่นไหล คมชัด และไม่กระตุก ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง เล่นเกม หรือ งานออกแบบกราฟิกต่าง ๆ ซึ่งใครที่กำลังมองหาการ์ดจอสักอันไว้ใช้งานอยู่ ก็สามารถใช้ตารางด้านล่างนี้มาช่วยในการตัดสินใจได้เช่นกันครับ
การ์ดจอเป็นส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าที่ในการประมวลผลกราฟิกสำหรับการเล่นเกมหรือใช้งานโปรแกรมที่ต้องการการประมวลผลกราฟิก การ์ดจอมีหลายรุ่นและแบรนด์ที่ต่างกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้งานต้องมีความรู้ในการเลือกซื้อ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมหรือใช้งานโปรแกรมที่ดีที่สุด
เปรียบเทียบการ์ดจอ คือเรื่องที่สำคัญเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อการ์ดจอที่ตรงตามความต้องการได้อย่างสมบูรณ์ ในบทความ��ี้จะมาเปรียบเทียบการ์ดจอสองรุ่น คือ NVIDIA GeForce GTX 1080 Ti และ AMD Radeon RX Vega 64 ซึ่งเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
NVIDIA GeForce GTX 1080 Ti
NVIDIA GeForce GTX 1080 Ti เป็นการ์ดจอรุ่นใหม่ที่มีการออกแบบมาเพื่อรองรับการเล่นเกมแบบ 4K โดยมีพลังประมวลผลที่สูงมาก สามารถสร้างภาพได้อย่างละเอียดและคมชัด มีจำนวน CUDA Cores ทั้งหมด 3,584 ตัว และมี VRAM ขนาด 11GB GDDR5X ที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูงถึง 11 Gbps
การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1080 Ti ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง G-Sync และ Ansel ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมได้อย่างมากมาย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี VRWorks ที่ช่วยให้การเล่นเกมในระบบ VR ได้อย่างลื่นไหล
AMD Radeon RX Vega 64
AMD Radeon RX Vega 64 เป็นการ์ดจอที่มีสเปกที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบ 4K โดยมีจำนวน CU ทั้งหมด 4,096 ตัว และมี VRAM ขนาด 8GB HBM2 ที่มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูงถึง 483 GB/s
การ์ดจอ AMD Radeon RX Vega 64 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Radeon Chill และ Radeon WattMan ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมได้อย่างมากมาย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Radeon FreeSync 2 ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมในระบบ HDR
อันดับการ์ดจอ NVIDIA และ AMD ปี 2023
อันดับ | รุ่น | คะแนน | VRAM | ใช้พลังงาน |
1 | Nvidia GeForce RTX 3090 | 100.00% | 24GB GDDR6X | 350W |
2 | AMD Radeon RX 6900 XT | 96.20% | 16GB GDDR6 | 300W |
3 | AMD Radeon RX 6800 XT | 93.20% | 16GB GDDR6 | 300W |
4 | Nvidia GeForce RTX 3080 | 93.10% | 10GB GDDR6X | 320W |
5 | AMD Radeon RX 6800 | 83.30% | 16GB GDDR6 | 250W |
6 | Nvidia Titan RTX | 79.50% | 24GB GDDR6 | 280W |
7 | Nvidia GeForce RTX 2080 Ti | 77.40% | 11GB GDDR6 | 260W |
8 | Nvidia GeForce RTX 3070 | 76.30% | 8GB GDDR6 | 220W |
9 | Nvidia GeForce RTX 3060 Ti | 69.60% | 8GB GDDR6 | 200W |
10 | Nvidia Titan V | 68.70% | 12GB HBM2 | 250W |
11 | Nvidia GeForce RTX 2080 Super | 66.80% | 8GB GDDR6 | 250W |
12 | Nvidia GeForce RTX 2080 | 62.50% | 8GB GDDR6 | 225W |
13 | Nvidia Titan Xp | 61.10% | 12GB GDDR5X | 250W |
14 | Nvidia GeForce RTX 2070 Super | 59.60% | 8GB GDDR6 | 215W |
15 | AMD Radeon VII | 58.90% | 16GB HBM2 | 300W |
16 | Nvidia GeForce GTX 1080 Ti | 57.80% | 11GB GDDR5X | 250W |
17 | AMD Radeon RX 5700 XT | 56.70% | 8GB GDDR6 | 225W |
18 | Nvidia GeForce RTX 2070 | 53.10% | 8GB GDDR6 | 185W |
19 | AMD Radeon RX 5700 | 51.40% | 8GB GDDR6 | 185W |
20 | Nvidia GeForce RTX 2060 Super | 50.60% | 8GB GDDR6 | 175W |
21 | AMD Radeon RX Vega 64 | 48.40% | 8GB HBM2 | 295W |
22 | AMD Radeon RX 5600 XT | 46.60% | 6GB GDDR6 | 150W |
23 | Nvidia GeForce GTX 1080 | 45.20% | 8GB GDDR5X | 180W |
24 | Nvidia GeForce RTX 2060 | 44.90% | 6GB GDDR6 | 160W |
25 | AMD Radeon RX Vega 56 | 42.70% | 8GB HBM2 | 210W |
26 | Nvidia GeForce GTX 1070 Ti | 41.80% | 8GB GDDR5 | 180W |
27 | Nvidia GeForce GTX 1660 Super | 37.90% | 6GB GDDR6 | 125W |
28 | Nvidia GeForce GTX 1660 Ti | 37.80% | 6GB GDDR6 | 120W |
29 | Nvidia GeForce GTX 1070 | 36.70% | 8GB GDDR5 | 150W |
30 | Nvidia GTX Titan X (Maxwell) | 35.30% | 12GB GDDR5 | 250W |
31 | Nvidia GeForce GTX 980 Ti | 32.90% | 6GB GDDR5 | 250W |
32 | Nvidia GeForce GTX 1660 | 32.80% | 6GB GDDR5 | 120W |
33 | AMD Radeon R9 Fury X | 32.70% | 4GB HBM | 275W |
34 | AMD Radeon RX 590 | 32.40% | 8GB GDDR5 | 225W |
35 | AMD Radeon RX 5500 XT 8GB | 31.80% | 8GB GDDR6 | 130W |
36 | AMD Radeon RX 580 8GB | 30.90% | 8GB GDDR5 | 185W |
37 | Nvidia GeForce GTX 1650 Super | 28.50% | 4GB GDDR6 | 100W |
38 | AMD Radeon RX 5500 XT 4GB | 28.40% | 4GB GDDR6 | 130W |
39 | AMD Radeon R9 390 | 27.20% | 8GB GDDR5 | 275W |
40 | Nvidia GeForce GTX 1060 6GB | 26.50% | 6GB GDDR5 | 120W |
41 | Nvidia GeForce GTX 980 | 26.40% | 4GB GDDR5 | 165W |
42 | AMD Radeon RX 570 4GB | 25.20% | 4GB GDDR5 | 150W |
43 | Nvidia GTX 1650 GDDR6 | 23.80% | 4GB GDDR6 | 75W |
44 | Nvidia GeForce GTX 1060 3GB | 22.30% | 3GB GDDR5 | 120W |
45 | Nvidia GeForce GTX 970 | 22.10% | 4GB GDDR5 | 145W |
46 | Nvidia GeForce GTX 1650 | 20.90% | 4GB GDDR5 | 75W |
47 | Nvidia GeForce GTX 1050 Ti | 16.10% | 4GB GDDR5 | 75W |
48 | AMD Radeon RX 560 4GB | 12.50% | 4GB GDDR5 | 80W |
49 | Nvidia GeForce GTX 1050 | 12.20% | 2GB GDDR5 | 75W |
50 | AMD Radeon RX 550 | 8.00% | 4GB GDDR5 | 50W |
หมายเหตุ
- สำหรับคะแนนที่ใช้จัดอันดับครั้งนี้ จะเป็นการคิดโดยรวมทั้งหมด จากด้านการใช้ในงานออกแบบกราฟิก, ตัดต่อวิดีโอ และเล่นเกม ซึ่งได้มีการสรุปภาพรวมมาแล้วเป็นคะแนนเรียงอันดับได้ตามตารางเลยครับ
- เกมที่ใช้ทดสอบนั้นมีทั้งหมด 9 เกม ได้แก่ Borderlands 3, The Division 2, Far Cry 5, Final Fantasy XIV, Forza Horizon 4, Metro Exodus, Red Dead Redemption 2, Shadow of the Tomb Raider และ Strange Brigade
- การทดสอบเล่นเกมของทีมงาน Tom’s Hardware นั้นจะไม่ได้เปิด Ray Tracing (เรนเดอร์แสงและเงาเพื่อสร้างความสมจริง) และ DLSS (AI ช่วยเรนเดอร์ภาพให้คมชัด) เพราะเป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ที่ตอนนี้มีเฉพาะ NVIDIA
และจากผลการทดสอบในทุกด้าน ๆ จะเห็นได้ว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 ถือว่านำมาโดยตลอดด้วย เลยตีค่าให้คะแนนสูงสุดเป็น 100.00% และตามมาด้วย AMD Radeon RX 6900 XT ที่คะแนน 96.20% คิดดูแล้วประสิทธิภาพต่างกัน 3.8% เท่านั้น แต่ว่าราคาการ์ดจอ 2 รุ่นนี้ ราคาถือว่าค่อนข้างต่างกันมากเลยทีเดียว โดย RTX 3090 เปิดราคาอยู่ที่ 52,800 บาท ส่วน RX 6900XT เปิดราคาบ้านเรา 34,900 บาทด้วยกัน (ห่างกัน 17,900 บาท)
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะ RTX 3090, RTX 3080 หรือ RX 6900XT, RX 6800XT และ RX 6800 ตอนนี้ของหายากมาก หลาย ๆ ร้านไม่ขายแยก ต้องซื้อพร้อมคอมประกอบด้วยเท่านั้น ซึ่งคงต้องรออีกสักพักกว่าสต๊อกการ์ดจอพวกนี้จะกลับมาปกติมีขายแยกครับผม

10 อันดับ การ์ดจอยอดนิยมจากผู้เข้าชมใน Notebookspec
1. nVIDIA GeForce RTX 3060 Ti
อันดับ การ์ด จอ มาถึงการ์ดจออันดับที่ 1 ซึ่งอยู่ใน Rank Popular ซึ่งมีการเข้าชมและจัดสเปคมากที่สุดใน NBS กันบ้าง ยกให้กับกราฟิกรุ่นน้อง แต่มาแรง ด้วยดีกรีด้านความคุ้มค่า จนทำให้หลายคนสนใจ และอยากได้ไว้ในครอบครองกันมากที่สุด GeForce RTX 3060 Ti ที่จัดว่าเป็นการ์ดเริ่มต้นของคนที่อยากเปลี่ยนจาก GeForce GTX เดิมๆ มาเพิ่มเติมความลื่นไหลให้กับเกมโปรดได้มากขึ้น โดยเรื่องของดีไซน์ ก็คงไม่ต้องออกตัวมากนัก สำหรับ Founder Edition เพราะหลายคนน่าจะเคยได้รู้จักกับการนำเสนองของค่ายนี้ไปแล้วเต็มๆ ทั้งในเรื่องความสวยงามและประสิทธิภาพในการระบายความร้อน
- Core clock: 1670 MHz
- VRAM: 8GB GDDR6
- Memory Bus: 256-bit
- CUDA cores: 4864
ด้วยสเปคที่จัดเต็มมาเอาใจวัยรุ่นงบจำกัด โดดเด่นด้วย CUDA cores 4864 ชุด และ BPU Boost clock 1.67GHz เสริมความเร็วด้วยหน่วยความจำ GDDR6 8GB และให้ Memory Baus 256-bit โดยมี Tensor cores 152 ชุดและ RT cores 36 ชุด ให้ความจัดจ้านและแรงแบบหายใจรดต้นคอ RTX 2080 ผู้พี่อีกด้วย พร้อมการเชื่อมต่อ PCIe 4.0 ในช่วงแรกที่เปิดตัวประมาณหมื่นต้นๆ ก็ถือว่าเป็นการ์ดราคากันเอง สำหรับคอเกมหลายๆ คน แต่พอเจอวิกฤตการ์ดจอขาดตลาด เนื่องจากกระแสการขุดบิตกลับมาอีกครั้ง ก็ทะยานไปราว 2 หมื่นบาท และยังหายากอีกด้วย อย่างไรก็ดี ในแง่ของคอเกม ที่กำลังจะเริ่มต้นความสวยงาม และไหลลื่นน่าใช้ RTX 3060 Ti ยังคงครองใจเกมเมอร์ได้ยาวๆ แน่นอน
2. nVIDIA GeForce RTX 3080
มาถึงอันดับที่ 2 ที่ปรากฏตัวใน Rank 10 อันดับ การ์ดจอ ความชื่นชอบของชาว NBS กันบ้าง ไม่ใช่ใครที่ไหนเพราะเป็น GeForce RTX 3080 ตามความคาดหมายของใครหลายคน เพราะเราลงข้อมูลตั้งแต่การเปิดตัวแรกๆ ของกราฟิกการ์ดตระกูล RTX 3000 series และเป็นการ์ดที่หลายคนคาดหมาย ว่าจะเป็นตัวแทนของการ์ดจอที่เล่นเกม 4K และเล่นได้ทุกเกมในเวลานี้ ซึ่งแน่นอนว่าในแง่ของความแรง ย่อมตอบโจทย์ได้ดี เมื่อดูจากสเปคที่จัดมาให้ ถือว่าเป็นการ์ดตัวรองท็อปที่ให้ประสิทธิภาพได้ดี โดยตอนเปิดตัวแน่นอนว่าเป็ฯ Founder Edition กับความสวยงามแปลกตา ไม่เหมือนใคร และยิ่งในเวลานั้นเปิดมาราคาค่อนข้างดี ในระดับ 2 หมื่นกลางๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงมาติดอันดับสองได้ในชาร์ท
- Core clock: 1710 MHz
- VRAM: 10GB GDDR6X
- Memory Bus: 320-bit
- CUDA cores: 8704
มาดูกันที่สเปคกันบ้าง แน่นอนว่าการ์ดจอรุ่นนี้ เป็นถึงรองท็อปในซีรีส์ของ RTX 3000 เรื่องประสิทธิภาพความแรง ย่อมไม่ธรรมดา กับความเร็วสัญญาณ Boost clock 1.71GHz ซึ่งอาจไม่ได้แตกต่างกันมากนัก กับการ์ดรุ่นใกล้เคียง แต่ได้หน่วยความจำ GDDR6X 19Gbps เช่นเดียวกับ RTX 3090 รุ่นพี่ แถมมี Memory Bus 320-bit เบียดบี้มาใกล้ๆ โดย VRAM มากถึง 10GB เลยทีเดียว รวมถึง Tensor cores 272 ชุดและ RT cores 68 ชุด ซึ่งทำให้เหนือกว่าการ์ด RTX 2000 series ก่อนหน้านี้พอสมควร สิ่งเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นการการันตีถึงความสามารถในการรีดเฟรมเรตให้กับการเล่นเกมในแบบต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล รวมถึงสนับสนุนในแง่ของความสวยงามผ่าน Ray-tracing กับเอฟเฟกต์ล้ำๆ สมจริงมากยิ่งขึ้น แต่ราคาในเวลานี้ แทบไม่ต้องพูดถึง เพราะเกินความจริงไปไกล

3. nVIDIA GeForce RTX 3070
มาถึงการ์ดจอที่เข้า Rank Popular 10 อันดับ การ์ดจอ ในระดับ 3 ของตาราง GeForce RTX 3070 ซึ่งเรียกว่าเป็นกราฟิกในระดับเริ่มต้นของชาวอีสปอร์ต ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยความแรงที่หลายฝ่ายการันตีว่า สามารถทะเลาะกับอดีตพี่ใหญ่อย่าง RTX 2080 หรือ RTX 2080 SUPER ได้อย่างไม่กลัว และการ์ดที่เป็น Founder Edition นี้ ถูกคาดหมายว่าจะทำราคาได้ดี และมีความคุ้มค่า จึงน่าจะมีส่วนทำให้ผู้ที่กำลังมองหาการ์ดจอน่าใช้ จ่ายเพิ่มอีกสักหน่อย แต่ได้ความแรงที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดีในช่วงที่วิกฤตการ์ดจอขาดตลาด ก็ทำให้ราคาเวลานี้มากกว่า 35,xxx บาท ขึ้นไปแล้ว ใครที่คว้าได้ก่อนหน้านี้ ก็น่าจะแฮ้ปปี้กันไป
- Core clock: 1730 MHz
- VRAM: 8GB GDDR6
- Memory Bus: 256-bit
- CUDA cores: 5888
มาดูที่การออกแบบ เปรียบเทียบการ์ดจอ ก็คงไม่ต้องอธิบายกันมาก สำหรับ Founder Edition เพราะแทบจะคล้ายๆ กันทั้งในส่วนของ 3060 Ti, 3070 และ 3080 โดยเฉพาะเรื่องของการระบายความร้อน ก็จะใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกันทั้งหมด มีพัดลมมาให้ 2 ชุด และช่องต่อไฟเลี้ยง ที่ต้องใช้ตัวแปลงในการเปลี่ยน Pins ไฟจากเดิม ส่วนเรื่องสเปค จัดมาให้แบบไม่กั๊ก ความเร็ว Boost clock 1.73GHz ที่อาจจะน้อยกว่า Custom card บางรุ่นไปบ้าง แต่ก็ถือว่าค่อนข้างสูง ใช้หน่วยความจำ GDDR6 8GB รวมถึงมี CUDA cores 5888 ชุด เลยทีเดียว เรียกว่าแรงมาตั้งแต่ต้นทาง ใครที่ชื่นชอบช่วงนี้ก็คงต้องรอหน่อย เพราะราคาค่อนข้างโหดทีเดียว
4. GIGABYTE RTX 3060Ti Eagle
อันดับ การ์ด จอ 10 อันดับ การ์ดจอ สำหรับ GeForce RTX 3060 Ti ต้องถือว่าเป็นการ์ดเริ่มต้น ของคนที่ขยับจาก GTX ขึ้นมา และต้องการสัมผัสกับความแรงและความสวยงาม จึงไม่น่าแปลกใจที่เข้าสู่ Rank ในตำแหน่งต่างๆ มากมาย ของกลุ่มคนที่มองหาการ์ดจอดีๆ ในราคาที่เอื้อมถึง เช่นเดียวกับ GeForce RTX™ 3060 Ti EAGLE OC 8G จากทาง Gigabyte ในรุ่นนี้ ด้วยความที่เป็นการ์ดจอราคาดีและยังมีลูกเล่นในสไตล์ของ Custom card จึงทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น กับการออกแบบที่อาจไม่ได้หวือหวานัก แต่ก็แฝงด้วยลูกเล่นที่ใช้งานได้ดี เช่น พัดลมขนาดใหญ่ 2 ตัว ที่มีใบพัดออกแบบพิเศษเพิ่มปริมาณลมในการระบายอากาศได้ดีขึ้น และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าแบบเดิม ฮีตไปป์จำนวนมากที่แนบสัมผัสกับ GPU ได้เต็มที่ และช่องทางระบายอากาศที่ให้ทิศทางลมไหลลื่นอีกด้วย พร้อมเพิ่มแถบไฟ RGB เล็กๆ บนตัวการ์ด ทำงานร่วมกับ RGB FUSION 2.0 ปรับแต่งได้เอง
- Core clock: 1695 MHz
- VRAM: 8GB GDDR6
- Memory Bus: 256-bit
- CUDA cores: 4864
ในแง่ของสเปค การ์ดจาก Gigabyte รุ่นนี้ รีดความเร็ว Core clock เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยเป็น 1695MHz และเสริมด้วยหน่วยความจำ GDDR6 8GB ในแบบ 256-bit เช่นเดียวกับ CUDA cores 4864 ชุด เล่นได้ลื่น เหมาะกับเกมเมอร์ ที่เติมเต็มความฝันกับการเล่นเกมและแคสสตรีมได้พร้อมๆ กัน เพราะได้ภาพที่สวยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมาในแบบ PCIe 4.0 แล้ว ใช้ร่วมกับเมนบอร์ดและซีพียูรุ่นใหม่ๆ ลื่นไหลได้เต็มที่ เคาะราคาก่อนที่จะเริ่มขาดตลาดอยู่ที่ 19,xxx บาท แล้ว
5. nVIDIA GeForce RTX 3090
ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจว่าทำไมการ์ดจอรุ่นนี้ จึงขยับมาอยู่กลางๆ ตาราง ทั้งที่เป็นกราฟิกการ์ดระดับแนวหน้า ด้วยขุมพลังที่เรียกว่าเกิดมาไม่ได้เป็นรองใครในใต้หล้าในชั่วโมงนี้ เพราะนี่คือ พี่ใหญ่แห่งวงการในตลาดการ์ดจอเวลานี้ GeForce RTX 3090 ที่จัดว่าเป็นสายสตรอง ราคาเดิมๆ ก็เคาะไปที่ครึ่งแสน แต่ตอนนี้ไปต่อราวๆ 6-7 หมื่นบาทแล้ว เนื่องจากหายากมากขึ้น ทั้งการ์ดที่เป็น Founder Edition แบบนี้ และ Custom card ด้วยเช่นกัน สำหรับดีไซน์ของการ์ด FE แบบนี้ ส่วนใหญ่จะถูกตาต้องใจ กับคนที่ชอบความเรียบกรูดูดี ในแบบ Original ที่ให้ความคลาสสิก และมีน้อยหายาก ไม่ได้ปรับแต่งอะไรมาก กับความแรงพื้นฐานที่จัดเต็มมาอยู่แล้ว พัดลมที่ใช้ 2 ตัว จัดทิศทางการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคอเกมระดับ 4K ขึ้นไป อยากปรับให้ลื่นหรือสวย ก็ตามแต่ใจปราถนา
- Boost clock: 1700 MHz
- VRAM: 24GB GDDR6X
- Memory Bus: 384-bit
- CUDA cores: 10496
การเข้ามาติด 10 อันดับ การ์ดจอ ก็ต้องถือว่าไม่ธรรมดา มาดูที่สเปคกันบ้าง จุดเด่นของการ์ดไม่ได้อยู่ที่ความเร็วอย่างเดียว เพราะ Boost clock ก็ยังเรียบง่ายที่ 1.7GHz แต่หน่วยความจำนี่จัดเต็มมาให้ GDDR6X 24GB เหนือกว่าสเปคการ์ดใดๆ ที่ออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน แต่มากกว่าการ์ดจอรุ่นน้องในสายพันธุ์ Amprere อยู่หลายเท่าตัว และช่องทางติดต่อ Memory Bus 384-bit เหนือสิ่งอื่นใดคือ CUDA cores มากถึง 10,496 ชุดเลยทีเดียว เช่นเดียวกับสิ่งสำคัญอย่าง RT cores และ Tensor caors ที่เยอะกว่าอดีตเทพอย่าง RTX 2080 Ti อยู่พออีกด้วย แม้ว่าสนนราคาจะโหดไปหน่อยสำหรับเกมเมอร์งบจำกัด แต่ถ้าได้สัมผัสจะติดใจอย่างแน่นอน
6. Zotac RTX 2060 GAMING
ถ้าจะว่ากันที่ 10 อันดับ การ์ดจอ ที่เน้นความคุ้มค่า ทำราคาได้ค่อนข้างดี ZOTAC ก็เป็นอีกค่ายหนึ่ง ที่สร้างชื่อในกลุ่มนี้ได้อย่างจะแจ้ง ด้วยการ์ดจอที่ออกมาหลายซีรีส์ให้โดนใจเหล่าเกมเมอร์ RTX 2060 GAMING รุ่นนี้ก็เช่นกัน สำหรับการ์ดจอรุ่นนี้ ถือว่าเป็นรุ่นแรกๆ ที่ออกมาในซีรีส์ที่มีทั้ง GDDR6 และรองรับ Ray-tracing โดยมี RT Cores เพิ่มเติมเข้ามาให้เหนือกว่า GTX 1600 series ดังนั้นจึงเหมาะกับทั้งเกมเมอร์มือใหม่ และคนที่ต้องการขยับความแรงให้สูงขึ้นและภาพสวยขึ้น ในงบประมาณที่ไม่สูงไปนัก ซึ่งจากราคาเดิมที่เปิดตัวหมื่นกว่าบาท มาจนถึงราคาสุดท้ายที่ไม่ถึงหมื่นบาทดี กับสเปคที่จัดจ้านนี้ ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย มาว่ากันที่สเปคก่อน RTX 2060 มาพร้อมกับ CUDA cores 1920 ชุด และความเร็ว Boost clock ที่แตะ 1680MHz ไม่มากไม่น้อย แต่ที่น่าสนใจคือ การใช้ GDDR6 14Gbps ความเร็วสูง มีมาให้ 6GB จัดว่าคุ้มค่าน่าใช้ แม้ว่าปัจจุบันจะตกรุ่นไปบ้างแล้ว และเป็น PCIe 3.0 แต่ก็น่าลงทุนไม่น้อยเลย
- Core clock: 1680 MHz
- VRAM: 6GB GDDR6
- Memory Bus: 192-bit
- CUDA cores: 1920
ส่วนการออกแบบ ตัวการ์ดอาจจะมาในแบบกระทัดรัด แต่เรื่องวัสดุและดีไซน์ที่จัดมาให้นั้น น่าใช้งานมากทีเดียว กับพัดลมขนาดใหญ่ 90mm จำนวน 2 ตัว มีท่อทองแดงที่เป็นฮีตไปป์และครีบอะลูมิเนียมจัดวางมาเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ทำให้มิติการ์ดดูเทอะทะ เรียกว่าจับยัดลงเคสเล็กๆ ได้สะดวกทีเดียว โดยมีเทคโนโลยี ICESTORM 2.0 มาช่วยในการระบายความร้อนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้การเล่นเกมของคุณสนุกขึ้นอีกด้วย
7. GIGABYTE GTX 1660 Gaming OC
ส่วนในอันดับที่ 7 นี้ อาจดูน่าแปลกใจไปบ้าง ว่าทำไม Gigabyte GeForce GTX 1660 รุ่นนี้ถึงเข้ารอบมาได้และยังอยู่ในลำดับที่ไม่ธรรมดา ตอบได้เลย ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวการ์ดอยู่ในท้องตลาดมานานพอสมควร และราคายังเหมาะกับผู้ใช้ที่เริ่มต้นเล่นเกมในยุคนั้นๆ และเวลาที่กำลังเขียนอยู่นี้ ก็ยังมีจำหน่ายอยู่ แม้ว่าสเปคจะร่วงโรยลงมาแล้ว แต่ในแง่ของการเล่นเกมยังไปได้ต่อ หากว่ากันที่สเปคก็แทบจะไม่ได้ด้อยเลย สำหรับน้องรองในตระกูล Turing GTX1600 series ทั้งในแง่ของความเร็ว Core clock ที่สูงถึง 1,860MHz มาพร้อม CUDA cores 1408 ชุด เพียงแต่ Memory clock อาจจะดรอปลงไปสักนิด เพราะใช้ GDDR5 6GB ซึ่งมี Memory Bus 192-bit ที่นับว่าเป็นระดับเริ่มต้น สนับสนุน PCIe 3.0 เท่านั้น แต่ก็ยังเข้ามาติด 10 อันดับ การ์ดจอยอดฮิตในคราวนี้
- Core clock: 1860 MHz
- VRAM: 6GB GDDR5
- Memory Bus: 192-bit
- CUDA cores: 1408
แต่ถ้ามองในเรื่องของเทคโนโลยีและการออกแบบตัวการ์ดแล้ว Gaming OC จัดเป็นซีรีส์ระดับกลาง ที่้มีความโดดเด่นในแง่ของการออกแบบและระบายความร้อน เริ่มตั้งแต่ฮีตซิงก์ขนาดใหญ่ซ้อน 3 ชั้น เพราะมีทั้งฮีตไปป์และครีบระบายความร้อนจำนวนมาก พร้อมกับพัดลม 3 ตัว ที่เป็นระบบ WINDFORCE 3X ทำงานในแบบที่ต่างกัน เพื่อการกระจายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ด้านหลังยังเป็น Backplate ขนาดใหญ่ ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับตัวการ์ด และที่น่าสนใจคือ ยังมาพร้อมลูกเล่นที่เน้นความสวยงามอย่าง RGB FUSION 2.0 ที่ช่วยในการปรับแต่งแสงไฟ RGB ให้กับพัดลมและเคสได้อีกทางด้วย จึงเป็นตัวเลือกที่เกมเมอร์หลายคนให้ความสนใจกันอยู่

8. nVIDIA GeForce RTX 3060
มาถึงอันดับที่ 8 ของ 10 อันดับ การ์ดจอ กันบ้าง แม้ว่าการ์ดจอตัวจริงจะยังไม่มา แต่ก็มีข่าวคราวมาตลอด ซึ่งทีมงานก็ได้นำเอาเข้ามาไว้ในลิสต์ด้วย พร้อมกับสเปคที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งการที่ได้รับความสนใจอย่างมากก็เพราะ เป็นการ์ดตัวรองลงมา ที่ถูกลดทอนสเปคลงไม่มากนัก เช่น Memory Bus และ CUDA core รวมถึงความเร็วแกนหลักเล็กน้อย แต่อาจจะได้หน่วยความจำที่เยอะขึ้น และคาดว่าจะถูกลงกว่าพอสมควร ซึ่งในต่างประเทศประมาณการกันว่า ที่เราประเมินไว้คือ 10,000 บาทโดยประมาณ มาดูสเปคของการ์ดจอรุ่นนี้กัน เปรียบเทียบการ์ดจอ
- Core clock: 1780 MHz
- VRAM: 12GB GDDR6
- Memory Bus: 192-bit
- CUDA cores: 3584
เริ่มจากความเร็ว Boost Clock ที่เทียบกับ RTX 3060 Ti ได้แบบเบียดบี้ และยังมีหน่วยความจำที่มากกว่า คือใช้ GDDR6 12GB ที่เยอะกว่า แต่สัดส่วนของ CUDA core ก็จะถูกลดทอนลงเหลือแค่ 3584 ชุด และ Memory Interface จะอยู่ที่ 192-bit เท่านั้น อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นการ์ดอาจจะออกมาในแบบ Founder Edition ก่อน ซึ่งราคาก็น่าจะไม่ได้แรงนัก หากเทียบกับ Custom Card อย่างไรก็ดี คงต้องรอดูการ์ดตัวจริงเปิดตัวและลงตลาดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ถึงเวลานั้นอาจจะขยับตำแหน่งขึ้นมาอยู่ใน Top 5 ก็เป็นได้
9. GIGABYTE RTX 3060Ti Gaming OC
สำหรับการ์ดจอที่เข้ามาติดชาร์ทในอันดับที่ 9 ของเดือน มกราคม 2564 นี้ เป็นการ์ดจาก Gigabyte ที่ใช้ RTX 3060 Ti เช่นเดียวกัน เพราะดูลงตัวทั้งประสิทธิภาพ และราคาที่เอื้อมได้ง่ายกว่า ด้วยสเปคที่นอกจากจะครบเครื่อง ตามแบบฉบับของ RTX 3060 Ti ที่ได้ทั้งความแรงจาก CUDA cores 4864 ชุด และความเร็วแกนหลัก 1,740MHz ที่ยกระดับจาก Ref. Card อยู่ระดับหนึ่ง และมีหน่วยความจำ GDDR6 8GB รวมถึง Memory Bus 356-bit แล้ว ยังให้แบนด์วิทธิ์ได้สูงเพราะติดต่อผ่าน PCIe 4.0 เป็นการ์ดจอเริ่มต้นของเหล่าเกมเมอร์ ที่ต้องการทั้งเฟรมเรตและภาพที่สวย ในงบที่พอจับไหว แต่ความสะดุดตาของตัวการ์ดที่ทาง Gigabyte ไม่เคยเป็นรองใคร ในแง่ของการออกแบบ ก็มีส่วนทำให้ผู้ใช้หันมาสนใจได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์การระบายความร้อน ด้วยพัดลมขนาดใหญ่ 3 ตัว ในแบบ WINDFORCE 3X ที่ให้การหมุนแตกต่างกัน แต่เพิ่มพลังการลดความร้อน และเสียงรบกวนได้ดีทีเดียว ด้านในยังมีฮีตไปป์ทองแดงขนาดใหญ่หลายเส้น แนบไปกับ GPU เต็มที่ รวมถึง Backplate ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี เสริมแกร่งอยู่ทางด้านหลัง
- Core clock: 1740 MHz
- VRAM: 8GB GDDR6 14Gbps
- Memory Bus: 256-bit
- CUDA cores: 4864
อันดับ การ์ด จอ ที่น่าสนใจคือตัวการ์ดรองรับ RGB FUSION 2.0 สำหรับการปรับแต่งแสงสีได้อย่างสวยงาม กับแสงไฟ RGB ที่หากคุณใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ และมีเมนบอร์ด Gigabyte ที่สนับสนุนด้วยแล้ว จะช่วยให้คุณปรับแต่งความงามให้กับคอมของคุณได้สนุกสนานเลยทีเดียว และยังเอาใจเกมเมอร์ที่ชอบปรับแต่ง ด้วยภาคจ่ายไฟ คาปาซิเตอร์และชุดเพาเวอร์ที่มีความทนทานสูงอีกด้วย ส่วนใครที่อยากจะลองสัมผัสการใช้งานในอีกระดับ แนะนำว่าลองดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ ที่เรียกว่า AORUS Engine มาติดตั้งไว้ใช้งาน ครบครันแบบนี้ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเข้ารอบ 10 อันดับ การ์ดจอในครั้งนี้
10. MSI RTX 3060Ti Gaming X Trio
10 อันดับ การ์ดจอ จากผู้เข้าชมใน NBS มาเริ่มกันที่การ์ดจอยอดฮิตลำดับที่ 10 ในชาร์ทการจัดสเปค ที่เรียกว่าเป็นการ์ดในกลุ่มเกมมิ่ง ที่มีดีไซน์โดดเด่น ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของชิปกราฟิก GeForce RTX 3060 Ti ที่แม้เป็นน้องเล็ก แต่สเปคไม่ธรรมดา มาพร้อมพัดลมขนาดใหญ่ 3 ชุด ช่วยในการระบายความร้อน และเทคโนโลยี TRI FROZR 2 ที่ประกอบด้วย TORX FAN 4.0 พร้อมท่อฮีตไปป์ทองแดง เสริมด้วยครีบระบายความร้อนจำนวนมาก ไม่เพียงช่วยให้เย็นลง ในขณะที่เหล่าเกมเมอร์กำลังสนุกกับเกมอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่เสียงรบกวนยังน้อยลงอีกด้วย และที่สำคัญยังมีซอฟต์แวร์ ที่ใช้ในการควบคุมการทำงาน และปรับแต่งให้อย่าง MSI Dragon Center เรียกว่าจัดการทั้งรอบพัดลม มีโพรไฟล์จัดการความร้อน เซ็นเซอร์ในการตรวจสอบ รวมไปถึงการปรับแต่ง Core clock, Mem Clock ได้อีกด้วย ด้านหลังเป็น Backplate ขนาดใหญ่สีดำ และลวดลายที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ พอร์ตแสดงผลจัดมาเต็มที่ทั้ง HDMI และ DisplayPort
- Boost clock: 1830 MHz
- VRAM: 8GB GDDR6 14Gbps
- Memory Bus: 256-bit
- CUDA cores: 4864
ในการเลือกซื้อการ์ดจอสำหรับเล่นเกมหรือใช้งานทางกราฟิก การเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาของการ์ดจอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราเลือกซื้อได้อย่างแม่นยำ โดยการเปรียบเทียบการ์ดจอที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของเรา จะช่วยประหยัดเวลาและเงินในการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น นอกจากนี้ การเปรียบเทียบการ์ดจอยังช่วยให้เราเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของเราได้ เพราะว่าการ์ดจอที่มีคุณภาพสูงอาจมีราคาแพงเกินไป ส่วนการ์ดจอที่ราคาถูกอาจไม่เหมาะสมกับความต้องการของเรา ดังนั้น การเปรียบเทียบการ์ดจอเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และที่ Taskade เรามีเครื่องมือช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบการ์ดจอและเลือกซื้อได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และแม่นยำ ตามความต้องการของคุณ
คำสำคัญ
- อันดับการ์ดจอ 2021
- เปรียบเทียบการ์ดจอ
- การ์ดจอที่แรงที่สุดในโลก 2021
- ตารางความแรงการ์ดจอ 2021
- ราคาการ์ดจอ 2022
- การ์ดจอ nvidia ทุกรุ่น
- การ์ดจอเล่นเกม ราคาถูก
- การ์ดจอเล่นเกม 2021 ราคาถูก
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง